简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ก.ล.ต. เตือน! เทรดคริปโตนอกศูนย์ฯ เสี่ยงคุกปรับครึ่งล้าน
บทคัดย่อ:ก.ล.ต. เตือนนักลงทุนระวังการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนอกศูนย์ซื้อขายที่ได้รับอนุญาต เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกและปรับทางการเงิน นักลงทุนที่ใช้บริการเหล่านี้เสี่ยงถูกโกงหรือฟอกเงิน ควรตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการที่ถูกกฎหมายก่อนลงทุนทุกครั้ง.

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศเตือนประชาชนและผู้ลงทุน หลังตรวจพบว่ามีบุคคลเปิดให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล นอกศูนย์ซื้อขายที่ได้รับอนุญาต
ก.ล.ต. ระบุว่า การดำเนินการลักษณะนี้เข้าข่าย “ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งตาม พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มาตรา 66 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2–5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท พร้อมปรับเพิ่มเติมไม่เกินวันละ 20,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน
ก.ล.ต. เตือนด้วยว่า ผู้ที่ใช้บริการนอกระบบจะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เสี่ยงถูกฉ้อโกง (scam) หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงินของอาชญากร
ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการที่ถูกกฎหมายได้ที่ www.sec.or.th หรือแอป “SEC Check First” และหากพบเบาะแสผิดปกติสามารถแจ้งที่สายด่วน 1207
วิเคราะห์: ทำไมข่าวนี้สำคัญ?
1.สะท้อนความจริงว่าตลาดเถื่อนยังมีอยู่
แม้ไทยจะมีศูนย์ซื้อขายที่ได้รับอนุญาตหลายแห่ง แต่ก็ยังมีบริการเถื่อนที่พยายามดึงดูดนักลงทุนด้วยเงื่อนไขพิเศษ เช่น ค่าธรรมเนียมถูก หรือการันตีกำไร ซึ่งมักเป็น “สัญญาณเตือน” ของการโกง
2.กฎหมายเข้มงวดกว่าที่คิด
หลายคนอาจคิดว่า “แค่ซื้อขายกันเอง” ไม่น่าจะผิด แต่ตามกฎหมาย หากมีการเปิดให้บริการเป็นการค้า เช่น รับฝาก ซื้อขายแทน หรือนายหน้า ถือว่าผิดทันที มีโทษจำคุกจริง ไม่ใช่แค่ปรับ
3.ผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย
นักลงทุนที่เผลอใช้บริการนอกระบบ ไม่เพียงเสี่ยงเสียเงินโดยไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ยังอาจถูกตรวจสอบในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินด้วย
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
- ใช้บริการที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ตรวจสอบรายชื่อผ่าน ก.ล.ต. ทุกครั้ง
- อย่าหลงเชื่อคำชวนลงทุน ที่มีผลตอบแทนสูงเกินจริง หรือซื้อขายผ่านกลุ่มไลน์/เฟซบุ๊กที่ไม่มีใบอนุญาต
- ถือครองเองอย่างปลอดภัย หากต้องการลงทุน ควรโอนสินทรัพย์ไปเก็บในกระเป๋าเงินดิจิทัล (wallet) ที่ควบคุมด้วยตัวเอง
- ติดตามกฎหมายอย่างใกล้ชิด เพราะภาครัฐไทยเริ่มเข้มงวดกับคริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

รวบ “จีนเทา” เอี่ยวแชร์ลูกโซ่คริปโต FINTOCH มูลค่ากว่า 456 ล้าน ซุกตัวในบ้านหรู
คดีสะเทือนวงการคริปโตไทยเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับกุมนายเหลียง ไอ่-ปิง สัญชาติจีน หัวหน้าเครือข่ายแชร์ลูกโซ่คริปโต “FINTOCH” ที่ก่อคดีหลอกลวงนักลงทุนในจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 456 ล้านบาท ภายในบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยพบว่าผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างหรูหราและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย FINTOCH ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้ผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงคือโครงการหลอกลวงที่นำเงินนักลงทุนหนีออกนอกประเทศ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้ผู้ลงทุนระมัดระวังแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะโปร่งใส แต่ “คน” ยังคงเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง.

สงครามการลงทุน หุ้น VS คริปโต แบบไหนทำเงินได้เหนือกว่า?
ในงาน Bitkub Summit 2025 ช่วงบ่ายวันแรก มีการเสวนาหัวข้อ “The Investment War: สมรภูมิการลงทุน” โดยกูรูการเงินชื่อดังอย่าง ลุงโฉลก, อ.ตั๊ม, โค้ชแมน และคุณปิง ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านหุ้นและคริปโต ลุงโฉลกมองว่า Bitcoin อาจแตะ $1,000,000 ได้ในอนาคต จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ไม่ใช่เพราะมูลค่าที่แท้จริงเพิ่มขึ้น ขณะที่ อ.ตั๊ม เห็นว่า Bitcoin คือสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่แข็งแกร่งในระยะยาว ด้าน โค้ชแมนและคุณปิง เชื่อว่าหุ้นไทยยังมีโอกาส โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ที่มีเงินปันผลสูง แม้ตลาดยังไม่ชัดเจน ทั้งสี่เห็นตรงกันว่า ปี 2026 นักลงทุนต้องรับมือกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง ควรลงทุนอย่างรอบคอบและบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก

ตลาดคริปโตเด้งเบา ๆ หลังข่าวผู้นำสองขั้วอำนาจโลกเตรียมเปิดโต๊ะพูดคุย
หลังจาก Bitcoin ร่วงหลุดแนวรับสำคัญ ตลาดคริปโตเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวเล็กน้อย โดยราคาปรับขึ้นราว 1% ภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากแรงซื้อคืนเชิงเทคนิค (Weekend Pump) และความคาดหวังจากข่าวการพบกันระหว่าง **ทรัมป์และสี จิ้นผิง** ที่อาจช่วยคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า นักลงทุนมองว่านี่เป็นโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น แต่ Altcoin ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ความผันผวนสูง และยังขาดแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าก็กดดันคริปโตระยะสั้น บทความเน้นให้ติดตามทั้ง **ข่าวเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์** เพื่อประเมินทิศทางตลาดคริปโตอย่างรอบคอบในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2025.

เหยื่อมีหวัง! อังกฤษเตรียมคืนเงิน 6,800 ล้านดอลลาร์ หลังยึดบิตคอยน์ จากแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ
ศาลอังกฤษเตรียมคืนเงินให้เหยื่อคดีหลอกลงทุน Bitcoin มูลค่ากว่า 6,800 ล้านดอลลาร์ หลังตำรวจลอนดอนยึดเหรียญ BTC ได้กว่า 61,000 เหรียญ คดีนี้มีต้นตอมาจากโครงการแชร์ลูกโซ่ “Tianjin Lantian” ในจีนที่หลอกนักลงทุนกว่า 128,000 คน ล่าสุดผู้ต้องหาหลัก Yadi Zhang ยอมรับสารภาพในข้อหาฟอกเงิน เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าความโลภและการขาดความรู้ยังเป็นช่องโหว่ใหญ่ของโลกคริปโต และนักลงทุนควรระวังโปรเจกต์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง.
WikiFX โบรกเกอร์
Plus500
GTCFX
JustMarkets
TMGM
HFM
FXCM
Plus500
GTCFX
JustMarkets
TMGM
HFM
FXCM
WikiFX โบรกเกอร์
Plus500
GTCFX
JustMarkets
TMGM
HFM
FXCM
Plus500
GTCFX
JustMarkets
TMGM
HFM
FXCM
