简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
Divergence และ Hidden Divergence แตกต่างกันอย่างไร?
บทคัดย่อ:Divergence และ Hidden Divergence ต่างเป็นสัญญาณที่ใช้ในการวิเคราะห์ทิศทางราคาของสินทรัพย์ แต่มีการใช้งานและความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน: - Divergence: เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มปัจจุบันของราคาอาจมีการกลับตัว (Reversal) เกิดขึ้น เมื่อราคากับตัวบ่งชี้ (Indicator) ไม่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อหรือแรงขายอาจเริ่มอ่อนตัวลง - Hidden Divergence: เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นอาจจะยังคงดำเนินต่อไป (Continuation) แม้ว่าราคาอาจมีการพักตัวในระยะสั้นๆ การเกิด Hidden Divergence แสดงว่ามีโอกาสสูงที่ราคาอาจเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดิมต่อไป

Divergence เป็นหนึ่งในสัญญาณที่สำคัญที่นักลงทุนใน Forex ควรรู้จัก เนื่องจากสัญญาณนี้ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดการกลับตัว อย่างไรก็ตาม นอกจาก Divergence แล้วยังมีสัญญาณอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า Hidden Divergence ซึ่งใช้ในการค้นหาสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินแนวโน้มต่อไป
แล้ว Divergence กับ Hidden Divergence มีความแตกต่างกันอย่างไร? แอดเหยี่ยวมีคำตอบให้ในบทความนี้!
Divergence คือสัญญาณที่บ่งบอกถึงโอกาสการกลับตัวของแนวโน้ม (Trend Reversal) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตรวจจับสัญญาณล่วงหน้าได้ว่า ณ จุดใดที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับทิศทาง นักลงทุนที่ใช้ Divergence โดยเฉพาะในตลาด Forex มักนิยมใช้สัญญาณนี้ เพราะช่วยในการวางแผนว่าควรซื้อ ขาย หรือถือสถานะเมื่อไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่า Divergence จะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะกลับตัว แต่อาจไม่เกิดการกลับตัวในทันทีเสมอไป บางครั้ง Divergence เพียงบ่งชี้ว่าแนวโน้มปัจจุบันเริ่มอ่อนแรงเท่านั้น และอาจต้องเกิด Divergence หลายครั้งก่อนที่ราคาจะกลับตัวจริง ๆ ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนควรทำอย่างรอบคอบ โดยต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ และใช้ Indicators หลายชนิดร่วมกันเพื่อช่วยในการวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างแม่นยำมากขึ้น

สัญญาณของ Divergence
สัญญาณของ Divergence สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.Bullish Divergence
เกิดขึ้นเมื่อราคาอยู่ในช่วงราคาขาลง แต่ Indicator ที่ใช้กลับบ่งชี้ว่าแนวโน้มของราคาควรจะเป็นขาขึ้น ทำให้บ่งบอกถึงสัญญาณ Bullish Divergence ว่า อาจจะมีการกลับตัวของราคาจากที่เป็นขาลง เป็นขาขึ้นได้
2.Bearish Divergence
เกิดขึ้นเมื่อราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ Indicator ที่ใช้กลับบ่งชี้ว่าแนวโน้มของราคา ควรจะเป็นขาลง ทำให้บ่งบอกถึงสัญญาณ Bearish Divergence ว่า อาจจะมีการกลับตัวของราคาจากที่เป็นขาขึ้นเป็นขาลงได้
Hidden Divergence คืออะไร
สัญญาณ Hidden Divergence คือสัญญาณใช้ในการบอกแนวโน้มของราคาที่มีโอกาสที่จะเป็นไปในเทรนด์เดิมต่อไป ซึ่งจะใช้ร่วมกับข้อมูล Indicator ต่าง ๆ ที่นักลงทุนมีความเชี่ยวชาญ
ความแตกต่างระหว่าง Divergence และ Hidden Divergence
Divergence และ Hidden Divergence ต่างเป็นสัญญาณที่ใช้ในการวิเคราะห์ทิศทางราคาของสินทรัพย์ แต่มีการใช้งานและความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:
- Divergence: เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มปัจจุบันของราคาอาจมีการกลับตัว (Reversal) เกิดขึ้น เมื่อราคากับตัวบ่งชี้ (Indicator) ไม่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อหรือแรงขายอาจเริ่มอ่อนตัวลง
- Hidden Divergence: เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นอาจจะยังคงดำเนินต่อไป (Continuation) แม้ว่าราคาอาจมีการพักตัวในระยะสั้นๆ การเกิด Hidden Divergence แสดงว่ามีโอกาสสูงที่ราคาอาจเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดิมต่อไป
ความแตกต่างหลัก คือ:
- Divergence เป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวของราคา
- Hidden Divergence เป็นสัญญาณยืนยันว่าแนวโน้มปัจจุบันจะยังดำเนินต่อไป
สรุปบทความ
สัญญาณ Divergence หมายถึงสัญญาณที่เมื่อเกิดขึ้น มีโอกาสที่ราคาหรือสินทรัพย์จะกลับทิศทาง ส่วน Hidden Divergence หมายถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิม อย่างไรก็ตาม การตรวจพบสัญญาณ Divergence ไม่ได้หมายความว่าจะมีการกลับตัวของราคาอย่างแน่นอนเสมอไป บางครั้งอาจเป็นเพียงการบ่งบอกว่าแนวโน้มเริ่มอ่อนแรง หรือในบางกรณีอาจต้องพบสัญญาณ Divergence หลายครั้งก่อนที่จะเกิดการกลับตัวจริง ดังนั้น การตัดสินใจเทรดควรใช้การวิเคราะห์หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก uhas
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

จากความหวังสู่ความพัง เมื่อ “Copy Trader” กลายเป็นกับดักความโลภของนักเทรด
กระแส “Copy Trader” ที่อ้างว่าสามารถคัดลอกการเทรดของมืออาชีพเพื่อสร้างกำไรโดยไม่ต้องวิเคราะห์เอง กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ แต่เหตุการณ์ล่าสุดในไทยที่มีผู้เสียหายกว่า 10 ล้านบาทจาก “โค้ชสอน Copy Trade” ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของกลยุทธ์นี้อย่างชัดเจน เพราะเบื้องหลังความง่าย อาจซ่อนความไม่โปร่งใสและการหลอกลวง นักลงทุนควรตรวจสอบใบอนุญาต ผลการเทรดย้อนหลัง และเงื่อนไขค่าบริการอย่างรอบคอบก่อนลงทุน สุดท้าย Copy Trade ไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ “ความรู้ ความระมัดระวัง และวินัย” เช่นเดียวกับการเทรดด้วยตัวเอง.

อยู่รอดหรือพอร์ตแตก? คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ “Margin Level” ตัวเลขที่คุณควรรู้ก่อนเทรด
ในตลาด Forex ที่ผันผวนทุกวินาที “Margin Level” คือเส้นแบ่งระหว่างการอยู่รอดกับการล้างพอร์ต นักเทรดจำนวนมากพ่ายแพ้ไม่ใช่เพราะวิเคราะห์ผิด แต่เพราะไม่เข้าใจตัวเลขนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัด “สุขภาพของพอร์ต” ว่าคุณยังมีทุนรับความเสี่ยงได้แค่ไหน หากค่า Margin Level ต่ำเกินไป ระบบอาจปิดออเดอร์อัตโนมัติ (Stop Out) เพื่อป้องกันการขาดทุนเกินพอร์ต การรักษา Margin Level ให้อยู่ในระดับปลอดภัยจึงเป็นวินัยสำคัญของเทรดเดอร์มืออาชีพ — เพราะสุดท้ายแล้ว การเทรดที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของการชนะทุกไม้ แต่คือ “การอยู่รอดให้นานพอ” ในสนามที่โหดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกการเงิน.

WikiEXPO Dubai 2025 มหกรรมฟินเทคระดับโลกใกล้เปิดฉาก!
WikiEXPO Dubai 2025 มหกรรมฟินเทคระดับโลก จัดขึ้นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 ที่ดูไบ รวมกว่า 5,000 ผู้เข้าร่วมและ 200 พันธมิตรจากทั่วโลก มุ่งเน้นนวัตกรรมด้าน AI, RegTech, Tokenization และสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อผลักดันอนาคตการเงินที่โปร่งใส ปลอดภัย และยั่งยืน.

Jarratt Davis จากห้องเล็ก ๆ ในบ้านแม่ สู่รายชื่อนักเทรดระดับโลกที่ใครก็ต้องพูดถึง
Jarratt Davis คือนักเทรดฟันด์ระดับโลกที่เริ่มจากศูนย์ โดยไม่มีพื้นฐานด้านการเงิน แต่สามารถก้าวขึ้นสู่ Top 10 ของโลกจากการจัดอันดับโดย Barclays ได้ ด้วยแนวคิดการเทรดที่เน้น “การเข้าใจเศรษฐกิจจริง” แทนการพึ่งพาเทคนิคอลเพียงอย่างเดียว หลังผ่านความล้มเหลวหลายครั้ง เขาค้นพบว่า ตลาด Forex ขับเคลื่อนด้วยจิตวิทยาและความคาดหวังทางเศรษฐกิจ แนวทาง Fundamental-Based Trading ของเขาชี้ให้เห็นว่า ความรู้ วินัย และการเข้าใจตลาดในเชิงลึก คือหัวใจของความสำเร็จในระยะยาว — ไม่ใช่โชคหรือสูตรลับใด ๆ.
WikiFX โบรกเกอร์
TMGM
FXCM
ATFX
FOREX.com
Ultima
IC Markets Global
TMGM
FXCM
ATFX
FOREX.com
Ultima
IC Markets Global
WikiFX โบรกเกอร์
TMGM
FXCM
ATFX
FOREX.com
Ultima
IC Markets Global
TMGM
FXCM
ATFX
FOREX.com
Ultima
IC Markets Global

