简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ได้จด! ทางลัดเทรดให้สำเร็จ ช่วยประหยัดเวลาไป 5 ปี
บทคัดย่อ:Michael Bamber เทรดเดอร์สายกองทุน แชร์ 5 หลักการเร่งเส้นทางสู่ความสำเร็จในตลาด Forex โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกนานปี เน้นวินัย ระบบความเสี่ยงที่ชัดเจน คุมขาดทุนรายวัน มีกลยุทธ์สำรอง และควบคุม Drawdown จุดสำคัญคือ “อยู่รอด” ไม่ใช่แค่ “ได้เยอะ” – เพราะตลาดมีทุกวัน แต่พอร์ตพังได้แค่ครั้งเดียว.
![aw [Recovered]-08.jpg aw [Recovered]-08.jpg](https://wzimg.ruiyin999.cn/guoji/2025-04-18/638805829864670517/ART638805829864670517_914986.jpg-article598)
แอดเหยี่ยวมีของเด็ดมาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ สายเทรดที่กำลังมองหา “ทางลัด” หรือวิธีลัดสู่ความสำเร็จในตลาด Forex ที่ไม่ต้องเสียเวลาหลายปีไปกับการลองผิดลองถูก
บทเรียนนี้มาจาก Michael Bamber เทรดเดอร์สายกองทุนที่มีประสบการณ์กับบัญชีของ MFF (My Forex Funds) และสิ่งที่เขาย้ำชัดคือ...
“การเทรดกองทุนไม่ใช่ปลายทางของการเป็นเทรดเดอร์ แต่เป็นเครื่องเร่งที่ทำให้คุณก้าวกระโดดได้ไวขึ้น”
เขาแชร์หลักการ 5 ข้อที่ช่วยลดระยะเวลาการเรียนรู้จาก 5 ปีเหลือแค่ไม่กี่เดือน และที่สำคัญ... ไม่ต้องเสี่ยงเอาพอร์ตตัวเองไปเป็นสนามทดลอง

1. วางระบบความเสี่ยงให้แน่น
การเทรดที่ดีเริ่มจากระบบที่มั่นคง Michael ย้ำว่า การมี กฎที่ชัดเจน คือเกราะป้องกันพอร์ตและจิตใจของคุณ
ให้โฟกัส 3 องค์ประกอบหลักของระบบความเสี่ยง:
Entry Model: มีรูปแบบเข้าเทรดที่ชัดเจน
Session: เลือกเวลาเทรดที่เหมาะกับคู่เงินและสไตล์ของคุณ
Pairs: จำกัดจำนวนคู่เทรด ไม่เกิน 3 คู่ เพื่อโฟกัสได้เต็มที่
2. คำนวณความเสี่ยงก่อนลงมือ
Michael แนะนำให้เสี่ยงสูงสุด 1.00% ต่อการเทรด 1 ครั้ง
ใช้สูตร:ขนาดการเทรด = เงินทุนที่ยอมเสี่ยง / การเคลื่อนไหวของราคาในจุด / ต้นทุนต่อ 1 จุด
เมื่อคุณรู้ว่า “พร้อมจะเสียได้เท่าไหร่” คุณก็จะไม่หวั่นไหวแม้ราคาจะไม่ไปตามทาง
3. จำกัดการขาดทุนรายวัน
ขาดทุน 2 ไม้ติดในวันเดียว = พักทันที
นี่คือหนึ่งในกฎที่ Michael ย้ำว่า “โคตรสำคัญแต่คนส่วนใหญ่ไม่ทำ” เพราะถ้ายังเทรดต่อหลังขาดทุน 2 ไม้ มันจะไม่ใช่เทรดจากแผน แต่เป็นเทรดจากอารมณ์ ซึ่งมักจบไม่สวย
4. มีกลยุทธ์สำรอง ไม่ยึดติดแค่แผนเดียว
ตลาดไม่เคยเหมือนเดิมตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องยืดหยุ่น
ถ้ากลยุทธ์หนึ่งขาดทุน 2-3 ครั้งติดกัน อย่าฝืน
หยุด – วิเคราะห์ – ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์
การเทรดไม่ใช่เรื่องของ “ความแม่น” แต่คือ “การปรับตัว”
5. ควบคุม Drawdown ให้ได้อยู่หมัด
การรักษาระดับ Drawdown ให้น้อยที่สุดคือการปกป้องชีวิตพอร์ต
Michael เคยเสี่ยง 1.00% ต่อเทรด แล้วค่อย ๆ ลดลงเหลือ 0.50% เพื่อรักษาทุนระยะยาว
ยิ่งพอร์ตใหญ่ ยิ่งต้องเน้นการ “อยู่รอด” ไม่ใช่แค่ “ได้เยอะ”
สรุปส่งท้าย
ในโลกการเทรดที่เต็มไปด้วยข้อมูล เทคนิค และคอร์สแพง ๆ สิ่งที่คุณต้องมีอาจไม่ใช่ระบบที่ล้ำที่สุด แต่คือ “วินัย” และ “ความเข้าใจ” ที่แน่นพอจะไม่เทรดแบบเดาสุ่ม Michael Bamber ไม่ได้รวยเร็ว เพราะเสี่ยงเยอะ แต่เขาประหยัดเวลา เพราะเรียนรู้จาก “กฎง่าย ๆ” ที่คนมองข้าม อย่ารอให้พอร์ตพังแล้วค่อยหาแผน อย่าปล่อยให้ความฝันการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ ต้องแลกมาด้วยเวลา 5 ปีโดยไม่จำเป็น จำไว้ว่า... ตลาดมีให้เล่นทุกวัน แต่พอร์ตมีให้พังแค่ครั้งเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก Michael Bamber
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เรียนฟอเร็กซ์เสร็จแล้ว ทำอย่างไรให้เป็นมืออาชีพที่ทำกำไรได้
บทความนี้กล่าวถึงเส้นทางของนักเทรดหน้าใหม่หลังจาก เรียนเทรด Forex จบ ซึ่งการเข้าใจทฤษฎีไม่เพียงพอต่อการอยู่รอดในตลาดจริง เพราะสิ่งสำคัญกว่าคือ “การบริหารจิตใจและวินัยการเทรด” ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า จากผู้เรียนสู่ผู้เทรดมืออาชีพ ต้องผ่านขั้นตอนการจดจำพื้นฐาน เข้าใจการบริหารความเสี่ยง ฝึกเทรดในบัญชีทดลอง วิเคราะห์ผล และลงมือเทรดจริงอย่างมีระบบ สุดท้ายตลาดจะให้รางวัลกับคนที่มี ความเข้าใจและวินัย มากกว่าคนที่เพียงแค่เข้ามาเร็ว — เพราะ “การเรียนเทรด” คือจุดเริ่มต้น แต่ “การอยู่รอด” คือเป้าหมายสูงสุดของนักเทรด.

Top Down Approach คืออะไร? มองภาพใหญ่ให้ขาด ก่อนตัดสินใจเทรด
แนวคิด Top Down Approach คือการวิเคราะห์ตลาด Forex จากภาพใหญ่ระดับโลกลงสู่จุดเข้าเทรดในกราฟ เทคนิคนี้ช่วยให้นักเทรดเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจและเคลื่อนไหวของค่าเงินได้ชัดเจน ลดความเสี่ยงจากการเทรดตามอารมณ์ โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ปัจจัยมหภาค → ความแข็งอ่อนของสกุลเงิน → เลือกคู่เงิน → หาจุดเข้าออกด้วยเทคนิคอล จุดเด่นของแนวทางนี้คือช่วยให้เทรดสอดคล้องกับเทรนด์ใหญ่ เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคา และวางกลยุทธ์ได้เหมือนนักเทรดมืออาชีพที่ “มองภาพรวมก่อนลงมือเทรดจริง”

นักลงทุนไทยโดนหนัก! โค้ชสอน Copy Trade สูญเงินกว่า 10 ล้าน
เกิดเหตุสะเทือนวงการลงทุน เมื่อกลุ่มนักเทรดไทยร้องเรียนต่อ ตำรวจไซเบอร์ สอท.1 หลังถูกหลอกให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Copy Trade ตามคำแนะนำของโค้ชชื่อดัง สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยโค้ชอ้างการันตีกำไรวันละ 5% แต่ภายหลังกลับหายตัวไปพร้อมพอร์ตที่แตกทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการ ฉ้อโกงทางการเงินหรือความเสี่ยงจากการลงทุนจริง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังบริการที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง และลงทุนบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและความรอบคอบ.

สัมภาษณ์คณะกรรมการรางวัล Golden Insight Award – ไซมอน โซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า
สัมภาษณ์คณะกรรมการรางวัล Golden Insight Award – ไซมอน โซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า (Chief Experience Officer) แห่ง Hantec Financial
WikiFX โบรกเกอร์
Plus500
Exness
STARTRADER
FXCM
FOREX.com
FXTM
Plus500
Exness
STARTRADER
FXCM
FOREX.com
FXTM
WikiFX โบรกเกอร์
Plus500
Exness
STARTRADER
FXCM
FOREX.com
FXTM
Plus500
Exness
STARTRADER
FXCM
FOREX.com
FXTM
