简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
9 ข้อสังเกต Crypto Scam
บทคัดย่อ:Scammer ในโลก Crypto มักใช้วิธีหลอกลวงต่าง ๆ เช่น การปลอมแปลง ICO, ใช้ Wallet ปลอม หรือการ Phishing เพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีการปั่นราคาเหรียญและหลอกให้ลงทุนตามกระแส การใช้โบรกเกอร์เถื่อนก็เสี่ยงต่อการสูญเสียเหรียญ จึงควรระมัดระวังและตรวจสอบให้ดี.

ทุกวันนี้มี Scammer หลากหลายรูปแบบ ในโลกของ Crypto ก็เช่นกันและเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่า Scammer วันนี้แอดเหยี่ยวจะมาแนะ 9 ข้อสังเกตของ “Crypto Scam”
- ICOs จากมิจฉาชีพและการปลอมแปลงหนังสือชี้ชวน (Whitepaper) : การเสนอขายเหรียญในระยะเริ่มต้น หรือ ICO (Initial Coin Offering) มันคือการระดมทุนและลงทุนเพื่อที่จะเปิดตัวโปรเจคโครงการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทสตาร์ทอัพ โดยมีการออกเหรียญดิจิทัลออกมา โดยในปีที่แล้วมีการมากกว่า 1,000 ICOs ที่เกิดขึ้น
ICO หลายแห่งนั้นถูกกฎหมายและน่าเชื่อถือ แต่ด้วยความที่เป็นสินทรัพย์ชนิดใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ทำให้ผู้ที่สนใจขาดประสบการณ์ในการแยกแยะว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม ซึ่งของปลอมก็มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวทั้งยังสร้างความเสียหายให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จำนวนมาก บางครั้งมีการตั้งใจปลอมแปลง Whitepaper กันเลยทีเดียว โดยการคัดลอกเพียงบางส่วนออกมาเพื่อให้หลายคนเข้าใจผิดและตกเป็นเหยื่อ ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจที่จะลงทุนในเหรียญหรือโครงการใดก็ตาม โปรดศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรวมถึงความน่าเชื่อของผู้ออกเหรียญนั้น ๆ ด้วย
- เงื่อนไขที่ซับซ้อนในการขอถอนเงินลงทุน : หากมีเงื่อนไขที่ซับซ้อนในการขอถอนเงินลงทุนในยามที่ท่านต้องการ ก็ให้พยายามตั้งข้อสังเกตเอาไว้เป็นพิเศษ รวมถึงการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นในจำนวนเงินที่สูง การรับประกันผลตอบแทนหรือโปรโมชั่นที่สูงผิดปกติ ก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีท่านควรศึกษาให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้
- Wallet ปลอม : Crypto Wallets มีหลายประเภทมาก บ้างก็ถูกกฎหมาย บ้างก็ผิดกฎหมาย บ้างก็ตั้งใจทำมาเพื่อหลอกลวงนักลงทุน หากท่านฝากหรือโอนเหรียญเข้าไปใน Wallets ที่ขาดความน่าเชื่อถือเหล่านั้น เงินของท่านอาจจะกลายเป็นศูนย์ไปได้ในพริบตา ฉะนั้นพยายามใช้ Wallets ที่น่าเชื่อถือ ถูกกฎหมายแม้จะมีค่าธรรมเนียมบ้างแต่ก็ปลอดภัยกว่าเป็นไหน ๆ เลยครับ
- ซื้อ Bitcoin ตามกระแสและแรงเชีย : แม้ Bitcoin จะเป็นผู้นำในเหรียญดิจิทัลทั้งหลาย แต่การจะทำกำไรจากมันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ศูนย์ซื้อขายหลายแห่งให้บริการซื้อขาย Bitcoin และพยายามชักชวนให้เราซื้อ ๆ ขาย ๆ เพื่อหวังค่าธรรมเนียม ด้วยความผันผวนของราคาที่สูง แปลว่าเงินทุนที่ท่านนำเข้ามาอาจไม่สามารถรักษาไว้ได้ พูดง่าย ๆ ว่าขาดทุนจากการซื้อ ๆ ขาย ๆโดยขาดความรู้ที่ดีนั่นแหละครับ ดังนั้นหากท่านชอบการเก็งกำไร ควรศึกษาสภาพตลาดให้ดีก่อนเข้าลงทุนนะครับ
- การฉกข้อมูลส่วนบุคคลและแอบอ้างในการทำธุรกรรม : Phishing นั้นเป็นอุบายเก่าแก่ของพวกมิจฉาชีพเลยก็ว่าได้ พูดง่าย ๆ คือ พวกเขาจะพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้รับรู้รับทราบข้อมูลจากคนคนหนึ่งหลังจากได้ข้อมูลแล้ว พวกเขาจะปลอมแปลงเป็นตัวท่านและนำข้อมูลนั้น ๆ ไปทำธุรกรรมแทนท่านในทันที การ Phishing นั้นอาจมาในการแบบของ Email แกล้งให้ใส่ข้อมูลต่าง ๆ เช่น Username Password และอื่น ๆ หรืออาจมาในรูปแบบของ Cold Calling คือแกล้งโทรมาเพื่อขอข้อมูลโดยตรง คุณต้องพยายามติดตามข่าวและระมัดระวังทุกครั้งเวลาจะให้ข้อมูลกับใคร
- สื่อสังคมออนไลน์ที่ขาดความน่าเชื่อถือ : โซเชียลมีเดียเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่เปิดกว้าง ใครก็เข้าถึงได้ ซึ่งทำให้เหล่ามิจฉาชีพตัวแสบก็ชอบที่จะแฝงตัวเข้ามาอยู่ในนี้ตลอดเวลา หลาย ๆ ครั้งก็ใช้โซเชียลมีเดียในการหาเหยื่อและหลอกให้เหยื่อสูญเสียทรัพย์ทุกวิถีทาง ดังนั้น โปรดพิจารณาก่อนจะไว้ใจใคร ทำธุรกรรมกับใคร หรือแม้กระทั่งเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มใด ๆ ที่ไม่น่าเชื่อถือ
- E-mail ปลอม : คุณไม่ควรที่จะคลิกเข้าไปในลิงก์ใด ๆ ก็ตามที่คุณไม่รู้จักที่มา ข้อนี้มีความเกี่ยวข้องกับข้อ Phishing คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่ามีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นมากมาย เคยมีแม้กระทั่งการปล่อยไวรัสเข้าไปในบริษัทผู้เสียหาย แล้วขู่กรรโชกเรียกร้องเงินแลกกับข้อมูลทั้งหมดที่บริษัทมี เพียงเพราะการคลิกลิงก์ของพนักงานบางคนแค่ครั้งเดียว
- การปั่นราคาเหรียญ : ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับการหากินกับความไม่รู้ พฤติกรรมเหล่านี้อาจไม่ได้มาจากมิจฉาชีพเท่านั้น แต่อาจมาจากผู้ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดหุ้นหรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เป็นอย่างดี คนกลุ่มนี้จะมองหาเหรียญที่มีความเป็นไปได้ของ Story ที่ดีในอนาคต เก็บสะสมเหรียญในราคาที่ต่ำ หลังจากนั้นก็อาจจะใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Telegram Twitter ในการปลุกกระแสและไล่ราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเหล่าแมงเม่าบินเข้ากองไฟ พวกเขาก็เทขายเหรียญทั้งหมดออกมาในราคาที่สูงมาก
- โบรกเกอร์เถื่อน : สำหรับสินทรัพย์ใหม่ชนิดนี้ แน่นอนว่าหลายคนยังไม่เข้าใจ เราจึงอยากได้ใครสักคนเป็นที่ปรึกษา เป็นตัวกลาง ซึ่งนั่นก็คือโบรกเกอร์ โบรกเกอร์มีทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย คือไม่ได้รับอนุญาตในการประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้ความปลอดภัยของแพลตฟอร์มพวกเขาอาจจะไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควรจะเป็น นั่นจึงเป็นที่มาของการถูกขโมยเหรียญต่าง ๆ ไปอย่างต่อเนื่อง มีคำกล่าวเท่ ๆ ว่า การไม่ลงทุนคือความเสี่ยงเพราะเงินเฟ้อจะกัดกินอำนาจซื้อของคุณแต่ในความเป็นจริงการรีบลงทุนโดยขาดความรู้นั้นมีความเสี่ยงยิ่งกว่าครับ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เจาะลึกคดี “โค้ชก๊อปปี้เทรด” พอร์ตแตก 10 ล้าน บทเรียนราคาแพงของนักลงทุนยุค TikTok
เกิดกรณีโค้ชสอนเทรดชักชวนนักลงทุนร่วมระบบ Copy Trade โดยอ้างกำไรวันละ 5% และความเสี่ยงต่ำ สุดท้ายพอร์ตแตก สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์และสภาทนายความอยู่ระหว่างตรวจสอบ เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้นักลงทุนระวังคำโฆษณาที่การันตีกำไร เพราะไม่มีใครควบคุมตลาดได้จริง.

ฝันร้ายซ้ำซ้อน! หุ้นทิพย์ CST Securities – VELTRIX ทำนักลงทุนสูญเงินกว่า 27 ล้าน
เกิดกรณีหลอกลงทุน “หุ้นทิพย์” ในไทย โดยแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัท CST Securities และ VELTRIX เพื่อชักชวนผู้คนผ่านไลน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เปิดบัญชีลงทุน โดยแสดงผลกำไรปลอมเพื่อหลอกให้โอนเงินจริง ก่อนปิดกั้นการถอนเงิน ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเงินรวมกว่า 27 ล้านบาท เหตุการณ์นี้เป็น Hybrid Scam ที่ผสมผสานการหลอกหลายขั้นตอน ใช้ภาพลักษณ์ของบริษัทถูกกฎหมายสร้างความน่าเชื่อถือ เจ้าหน้าที่เตือนให้นักลงทุนตรวจสอบใบอนุญาตและชื่อโบรกเกอร์ให้ถูกต้อง ไม่โอนเงินเข้าบัญชีบุคคล และระมัดระวังต่อคำชักชวนผลตอบแทนสูงเกินจริง เพราะ “ไม่มีการลงทุนใดปราศจากความเสี่ยง”

นักลงทุนไทยโดนหนัก! โค้ชสอน Copy Trade สูญเงินกว่า 10 ล้าน
เกิดเหตุสะเทือนวงการลงทุน เมื่อกลุ่มนักเทรดไทยร้องเรียนต่อ ตำรวจไซเบอร์ สอท.1 หลังถูกหลอกให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Copy Trade ตามคำแนะนำของโค้ชชื่อดัง สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยโค้ชอ้างการันตีกำไรวันละ 5% แต่ภายหลังกลับหายตัวไปพร้อมพอร์ตที่แตกทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการ ฉ้อโกงทางการเงินหรือความเสี่ยงจากการลงทุนจริง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังบริการที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง และลงทุนบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและความรอบคอบ.

คริปโตลุกเป็นไฟ! เทขายกระหน่ำ 1.2 พันล้านดอลลาร์ พอร์ตนักเทรดแตกยับ
ตลาดคริปโตกลับมาระอุอีกครั้งเมื่อราคา Bitcoin ดิ่งแรงแตะ 105,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ส่งผลให้เกิด “คลื่นล้างพอร์ต” มูลค่ากว่า 1.16 พันล้านดอลลาร์ทั่วตลาด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเดือน ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าเพียงชั่วโมงแรกมีนักเทรดถูกล้างพอร์ตกว่า 191 ล้านดอลลาร์ โดยแพลตฟอร์ม Hyperliquid ได้รับผลกระทบมากที่สุดกว่า 240 ล้านดอลลาร์ แม้ BTC จะรีบาวด์กลับมาบริเวณ 106,400 ดอลลาร์ แต่แรงซื้อยังไม่หนาแน่นพอ ขณะที่ความหวังของ Altcoin Season ถูกสั่นคลอน เหลือเพียง ZCash (ZEC) ที่พอเคลื่อนไหวสวนตลาดได้เล็กน้อย
WikiFX โบรกเกอร์
FXCM
D prime
HFM
JustMarkets
FXTM
XM
FXCM
D prime
HFM
JustMarkets
FXTM
XM
WikiFX โบรกเกอร์
FXCM
D prime
HFM
JustMarkets
FXTM
XM
FXCM
D prime
HFM
JustMarkets
FXTM
XM
