简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
7 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับบิตคอยน์ อันตรายจริงหรือแค่เรื่องลวง?
บทคัดย่อ:บทความนี้พูดถึงการทำลายความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับบิตคอยน์ โดยแสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์ไม่ใช่ฟองสบู่ที่รอวันแตก หรือแค่เครื่องมือเก็งกำไรเท่านั้น บิตคอยน์มีการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน รวมถึงการรับชำระเงินจากบริษัทใหญ่ๆ และยังถูกใช้เป็นทางเลือกในการป้องกันเงินเฟ้อในบางประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ บิตคอยน์ยังมีมูลค่าจริงเพราะมันมีจำนวนจำกัด และระบบบล็อกเชนที่ปลอดภัย อีกทั้งมันยังได้รับการยอมรับจากรัฐบาลหลายประเทศ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วย.

แอดเหยี่ยวรู้ว่านักเทรดอย่างคุณคงได้ยินเรื่องบิตคอยน์กันมาเยอะ บ้างก็ว่ามันคือฟองสบู่รอวันแตก บ้างก็บอกว่ามันไร้ค่า ใช้งานจริงไม่ได้ หรือแม้แต่คิดว่ามันคือการพนันชัดๆ! แต่เอาจริงๆ แล้ว สิ่งที่คุณเคยได้ยินมาเป็นเรื่องจริงแค่ไหน? วันนี้แอดเหยี่ยวจะมาชำแหละความเชื่อผิดๆ เหล่านี้ พร้อมเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับคริปโตตัวพ่อที่เปลี่ยนโฉมโลกการเงินไปแล้ว!
ความเชื่อ 1 บิตคอยน์คือฟองสบู่ที่รอวันแตก
บางคนคิดว่าราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นเพราะกระแสการเก็งกำไร และสักวันมันต้องพังเหมือนฟองสบู่ดอทคอม หรือแม้แต่วิกฤติดอกทิวลิปเมื่อศตวรรษที่ 17 แต่ความจริงคือ...
ความจริง:
- บิตคอยน์อยู่รอดมาแล้วกว่า 12 ปี ผ่านทั้งช่วงพีคและช่วงร่วง แต่ทุกครั้งมันกลับมายืนได้และทำจุดสูงสุดใหม่เสมอ
- เทคโนโลยีใหม่ๆ มักเผชิญกับช่วง “ไฮป์” ก่อนจะปรับตัวเข้าสู่ระยะเติบโต เช่นเดียวกับหุ้นเทคในยุคดอทคอม ที่วันนี้กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก
- แม้ราคาจะผันผวน แต่การฟื้นตัวของบิตคอยน์ตลอดประวัติศาสตร์ บ่งชี้ว่ามันอาจเป็น “สินทรัพย์ดิจิทัล” ที่ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว
ความเชื่อ 2 บิตคอยน์ใช้งานในโลกจริงไม่ได้
หลายคนเชื่อว่าบิตคอยน์ใช้ได้แค่ในโลกออนไลน์ หรือแย่กว่านั้นคือมันถูกใช้เพื่อการทำธุรกรรมผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ลองดูความจริงกันหน่อย
ความจริง:
- บริษัทใหญ่ระดับโลกอย่าง Tesla, Square และ MicroStrategy ต่างถือครองบิตคอยน์ในพอร์ตการเงินของตัวเอง
- ปัจจุบันมีร้านค้าและแพลตฟอร์มมากมายที่รับชำระเงินด้วยบิตคอยน์ เช่น Expedia, Microsoft และแม้แต่บางร้านกาแฟ
- ในบางประเทศที่เผชิญปัญหาเงินเฟ้อสูง เช่น อาร์เจนตินาและเวเนซุเอลา บิตคอยน์กลายเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนรักษามูลค่าทรัพย์สินของตนเอง
ความเชื่อ 3 บิตคอยน์ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง
บิตคอยน์ไม่มีทองคำหรือสินทรัพย์ค้ำประกัน แล้วมันมีค่าจริงหรือ?
ความจริง:
- บิตคอยน์มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้มันเป็นสินทรัพย์ที่มี “ความหายาก” เหมือนทองคำ
- ทุกๆ 4 ปีจะเกิด “Halving” ลดจำนวนบิตคอยน์ใหม่ที่ถูกขุดได้ ทำให้อุปทานลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มขึ้น
- บิตคอยน์ทำหน้าที่เป็น “ทองคำดิจิทัล” ที่สามารถโอนย้ายข้ามโลกได้ในไม่กี่นาที โดยไม่มีตัวกลางและไม่มีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ความเชื่อ 4 บิตคอยน์จะถูกเหรียญอื่นมาแทนที่
มีคริปโตเกิดใหม่มากมาย แต่บิตคอยน์ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งมาได้อย่างไร?
ความจริง:
- บิตคอยน์มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด และยังครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 60%
- เป็นเหรียญแรกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และมีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งที่สุด
- การพัฒนาบิตคอยน์ไม่หยุดนิ่ง เช่น Lightning Network ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมถูกลง
ความเชื่อ 5 การลงทุนในบิตคอยน์คือการเสี่ยงโชค
ราคาขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ มันก็แค่การพนันใช่ไหม?
ความจริง:
- ถ้าบิตคอยน์เป็นการพนัน การถือหุ้นก็ถือเป็นการพนันเช่นกัน เพราะทุกตลาดการเงินล้วนมีความเสี่ยง
- นักลงทุนสถาบันระดับโลก เช่น BlackRock และ Fidelity เริ่มถือบิตคอยน์ในพอร์ตของพวกเขา
- การลงทุนในบิตคอยน์สามารถใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar Cost Averaging) เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวน
ความเชื่อ 6 บิตคอยน์ไม่ปลอดภัย เสี่ยงโดนแฮก
ข่าวแฮกเว็บเทรดมีให้เห็นบ่อย แปลว่าบิตคอยน์ไม่ปลอดภัยหรือเปล่า?
ความจริง:
- บิตคอยน์ไม่เคยถูกแฮกได้ ระบบบล็อกเชนของมันเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
- การแฮกที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากเว็บเทรดหรือกระเป๋าเงินที่มีระบบรักษาความปลอดภัยไม่ดีพอ ไม่ใช่ตัวบิตคอยน์เอง
- หากเก็บบิตคอยน์ใน “ฮาร์ดแวร์วอลเล็ท” หรือ “กระเป๋าเย็น” ความปลอดภัยแทบจะสมบูรณ์แบบ
ความเชื่อ 7 รัฐบาลจะห้ามบิตคอยน์ในที่สุด
หลายประเทศพยายามควบคุมบิตคอยน์ แปลว่ามันจะหายไปในอนาคตหรือไม่?
ความจริง
- แทนที่รัฐบาลจะห้าม หลายประเทศเริ่มยอมรับบิตคอยน์ เช่น เอลซัลวาดอร์ที่ทำให้เป็นเงินถูกกฎหมาย
- ในสหรัฐฯ และยุโรป มีการกำกับดูแลคริปโตมากขึ้น ทำให้มันถูกต้องตามกฎหมายและโปร่งใสขึ้น
- บิตคอยน์เป็นเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถปิดมันได้อย่างสมบูรณ์
สรุป
บิตคอยน์ไม่ใช่ฟองสบู่ ไม่ใช่แค่เครื่องมือเก็งกำไร และไม่ได้ถูกใช้เพื่ออาชญากรรมเป็นหลักอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด หากคุณเป็นนักเทรดที่อยากเข้าใจโลกคริปโตให้ลึกขึ้น การศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดกว่าเดิม ดังนั้น อย่าเพิ่งเชื่อทุกข่าวลือ! ศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วคุณอาจเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปฏิวัติวงการการเงินตัวนี้!
ขอบคุณข้อมูลจาก coinbase
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ปลอดภัยจริงหรือคิดไปเอง? ใช้ VPN เทรดต้องรู้ให้ชัดก่อนเสี่ยงพอร์ตพัง!
การใช้ VPN ในการเทรด Forex ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ปกป้องข้อมูล และลดความหน่วงของการเชื่อมต่อ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความเสถียรหรือเข้าถึงโบรกเกอร์ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้และใช้อย่างเหมาะสม เพราะ VPN ไม่ทำให้กำไรเพิ่ม แต่ช่วยให้เทรดได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น.

จากความหวังสู่ความพัง เมื่อ “Copy Trader” กลายเป็นกับดักความโลภของนักเทรด
กระแส “Copy Trader” ที่อ้างว่าสามารถคัดลอกการเทรดของมืออาชีพเพื่อสร้างกำไรโดยไม่ต้องวิเคราะห์เอง กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ แต่เหตุการณ์ล่าสุดในไทยที่มีผู้เสียหายกว่า 10 ล้านบาทจาก “โค้ชสอน Copy Trade” ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของกลยุทธ์นี้อย่างชัดเจน เพราะเบื้องหลังความง่าย อาจซ่อนความไม่โปร่งใสและการหลอกลวง นักลงทุนควรตรวจสอบใบอนุญาต ผลการเทรดย้อนหลัง และเงื่อนไขค่าบริการอย่างรอบคอบก่อนลงทุน สุดท้าย Copy Trade ไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ “ความรู้ ความระมัดระวัง และวินัย” เช่นเดียวกับการเทรดด้วยตัวเอง.

อยู่รอดหรือพอร์ตแตก? คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ “Margin Level” ตัวเลขที่คุณควรรู้ก่อนเทรด
ในตลาด Forex ที่ผันผวนทุกวินาที “Margin Level” คือเส้นแบ่งระหว่างการอยู่รอดกับการล้างพอร์ต นักเทรดจำนวนมากพ่ายแพ้ไม่ใช่เพราะวิเคราะห์ผิด แต่เพราะไม่เข้าใจตัวเลขนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัด “สุขภาพของพอร์ต” ว่าคุณยังมีทุนรับความเสี่ยงได้แค่ไหน หากค่า Margin Level ต่ำเกินไป ระบบอาจปิดออเดอร์อัตโนมัติ (Stop Out) เพื่อป้องกันการขาดทุนเกินพอร์ต การรักษา Margin Level ให้อยู่ในระดับปลอดภัยจึงเป็นวินัยสำคัญของเทรดเดอร์มืออาชีพ — เพราะสุดท้ายแล้ว การเทรดที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของการชนะทุกไม้ แต่คือ “การอยู่รอดให้นานพอ” ในสนามที่โหดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกการเงิน.

"นายอาร์ม"แจงใจบางทำไม? เรียก Bitcoiner ว่า “Crypto Bros” ยันไม่ได้ดูถูก แค่เข้าใจคนละมุม
ดราม่าเดือดในวงการคริปโต เมื่อ “นายอาร์ม (9Arm)” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ออกมาขอโทษหลังถูกวิจารณ์จากการใช้คำว่า “Crypto Bros” เรียกกลุ่ม Bitcoiner ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำดูถูก เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนาเหยียด พร้อมตั้งคำถามว่า หากผู้ที่เข้าใจ Bitcoin ยังถูกต่อต้าน คนใหม่จะกล้าเรียนรู้หรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนความอ่อนไหวของคอมมูนิตี้คริปโต ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และอัตตา — และเป็นบทเรียนเรื่อง “การสื่อสารอย่างเข้าใจ” ในโลกดิจิทัล.
WikiFX โบรกเกอร์
FOREX.com
FXTM
octa
HFM
InteractiveBrokers
Vantage
FOREX.com
FXTM
octa
HFM
InteractiveBrokers
Vantage
WikiFX โบรกเกอร์
FOREX.com
FXTM
octa
HFM
InteractiveBrokers
Vantage
FOREX.com
FXTM
octa
HFM
InteractiveBrokers
Vantage

