简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ย้อนประวัติ 3 เทรดเดอร์ในตำนานทำเงินมากที่สุด !
บทคัดย่อ:ย้อนประวัติ 3 เทรดเดอร์ในตำนานทำเงินมากที่สุด !

วันนี้พี่เหยี่ยวขอพาทุกคนไปรู้จัก 3 เทรดเดอร์ในตำนานที่ยังมีลมหายใจ ย้อนดูวีรกรรมความฉลาดเป็นกรด จนสร้างประวัติศาสตร์เป็นเทรดเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จะเป็นใครบ้าง ไปดูกัน !

1. จอร์จ โซรอส (1930-ปัจจุบัน) : จอร์จ โซรอส เป็นเทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของธุรกิจนี้ เป็นที่รู้จักในชื่อ “ชายผู้ทำลายธนาคารแห่งอังกฤษ” ในปี 1992 โซรอสทำเงินได้ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์โดยเดิมพันว่าเงินปอนด์อังกฤษจะอ่อนค่าลง ในขณะนั้นเงินปอนด์ได้ถูกนำมาใช้กับอัตรา ERM ของยุโรปแล้ว ซึ่งเป็นกลไกอัตราแลกเปลี่ยนที่ออกแบบมาเพื่อให้สกุลเงินที่อยู่ในรายการอยู่ในชุดของพารามิเตอร์ที่กำหนดไว้เพื่อเพิ่มเสถียรภาพทางการเงินของระบบ ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ร่วมงานที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ กองทุนควอนตัมเพื่อการลงทุน โซรอสสังเกตเห็นว่าเงินปอนด์มีพื้นฐานไม่แข็งแกร่งพอที่จะคงอยู่ใน ERM และสร้างสถานะขายที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบันโซรอสมีทรัพย์สินประมาณ 8.3 พันล้านดอลลาร์และเกษียณอายุแล้ว
อีกวีรกรรมคือ การโจมค่าเงินเอเชีย เขาคนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง โซรอสเห็นช่องทางทำกำไรจากการที่เงินบาทไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง จึงได้โจมตีค่าเงินบาทด้วยการขายชอร์ตเงินบาท ในขณะนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยทำการป้องกันค่าเงินบาทด้วยการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปซื้อเงินบาทที่โซรอสขาย การโจมตีของโซรอสยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดไทยก็ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ในเดือนกรกฎาคม 1997 ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเกือบ 100% ส่งผลให้ต้องมีหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัว บริษัทจำนวนมากล้มละลาย ธนาคารมีหนี้เสียสูงเป็นประวัติการณ์

2. แอนดรูว์ เครเกอร์ (1955–ปัจจุบัน) : Andrew J. Krieger หรือ Andy เทรดเดอร์ระดับตำนาน ที่สามารถทำเงินจากการชอร์ตค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ในช่วงที่เกิดวิกฤติการณ์ Black Monday จนได้ฉายาว่าเป็น “จอร์จ โซรอส” คนที่ 2 เพราะการที่เขาเก็งกำไรค่าเงินนิวซีแลนด์นั้น สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงภายในประเทศนิวซีแลนด์ เช่นเดียวกับจอร์จ โซรอสที่เคยทำเอาไว้ในกรณีประเทศอังกฤษและไทย แอนดรูว์เป็นเทรดเดอร์สายกล้าได้กล้าเสีย ซึ่งหมายความว่าหากเขาเดินเกมถูก เขาก็จะทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่หากเขาเดินเกมผิด เขาก็จะสูญเสียมหาศาลเช่นกัน และเขาคือผู้ถล่มค่าเงิน Kiwi หรือ New Zealand dollar (NZD) ในช่วง Black Monday ปี 1987 ที่ตลาดหุ้นสหรัฐถล่มรุนแรงกว่า -22% ตามด้วยการ panic และการตกลงของค่าเงิน USD ผู้เล่นในตลาดกลัวที่ถือค่าเงิน USD ก็ทำให้ค่าเงินสกุลต่างๆดีดตัวขึ้นสูง เช่นเดียวกับ NZD การบวกรุนแรงทำให้เกิด short-term overvalue โดย Krieger มองไปที่ New Zealand ประเทศเศรษฐกิจขนาดเล็กกว่าสหรัฐมาก และมีความอ่อนแอ แต่ด้วยความไม่ปกติของสถานทำให้ค่าเงิน New Zealand dollar แข็งค่ามากกว่า US dollar
Andy ใช้ currency options (Leverage 400:1) ในการ short ค่าเงิน NZD คิดเป็นมูลค่าราว ๆ $700 million - $1 billion ทำให้มูลค่าสัญญาของเขาใหญ่กว่า money supply ในระบบของ New Zealand ซึ่งปิดวันค่าเงิน NZD ถล่มลงรุนแรง -5% ระหว่างวันค่าเงินเกิดความผันผวนระดับ 10% จากการเก็งกำไรที่เกิด โดยวีรกรรมนั้น Krieger ชนะเขาได้รับกำไร 300 ล้านดอลลาร์

3. พอล ทูดอร์ โจนส์ (1954–ปัจจุบัน) : พอล คือผู้ก่อตั้ง Tudor Investment Corporation ซึ่งเป็นกองทุนป้องกันความเสี่ยงมูลค่า 7.8 พันล้านดอลลาร์ ในเหตุการณ์ Black Monday เมื่อปี 1987 เป็นปีที่ล่มสลายของตลาดหุ้น แต่กองทุนของ พอล กลับทำผลกำไรในปีนั้นถึง 62% จากการ Short หุ้น และ ซื้อพันธบัตร
พอลเป็นผู้จัดการกองทุนที่ใช้การผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์ทางพื้นฐานและเทคนิคได้อย่างลงตัว ด้วยสไตล์การเทรดที่แตกต่างกับเทรดเดอร์คนอื่นอย่างสิ้นเชิง ทำให้เขาสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 3 หลัก (+xxx%) ติดต่อกันถึง 5 ปี ในปัจจุบันกองทุนของเขา การนำเงินไปลงทุนของเขาแบ่งไปในหลายสินค้า Paul เริ่มต้นจากการทำธุรกิจโบรกเกอร์จนประสบความสำเร็จ โดยทำรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ จากนั้นได้ผันตัวไปเป็นเทรดเดอร์โดยเริ่มต้นจากตลาด “ฝ้าย” ที่นิวยอร์ก และเขาก็ประสบความสำเร็จในการเทรดอีกครั้ง โดยสามารถทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์
สิ่งที่ 3 คนนี้มีเหมือนกัน มองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น กล้า ในวันที่คนอื่นกลัว แต่สิ่งเหล่านี้คงไม่ได้ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ หากขาดความฉลาดในการมองเกมให้ขาด และความพยายามอย่างแรงกล้า

คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เสริมพลังด้วยความรู้ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน: โครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน
กิจกรรมโครงการให้ความรู้แก่นักลงทุน

Headway เหมาะกับคนไทยไหม? รวมเสียงจากผู้ใช้จริง โบรกหน้าใหม่ใช่สำหรับเราไหม
รีวิวโบรกเกอร์

ไม่รู้เวลาเปิด-ปิดตลาด Forex = เสี่ยงพลาดโอกาส! มือใหม่ต้องอ่าน
การรู้ว่า ตลาด Forex ปิดกี่โมง ไม่ใช่แค่ข้อมูลพื้นฐาน แต่คือปัจจัยสำคัญที่กำหนดจังหวะและโอกาสในการเทรด บทความนี้อธิบายเวลาเปิด-ปิดของ 4 ตลาดหลักทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก พร้อมชี้ว่าช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กซ้อนกันคือช่วงที่ความผันผวนสูงสุด เหมาะกับการเทรดคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD การเข้าใจช่วงเวลาตลาดช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์ได้แม่นยำ ลดความเสี่ยง และใช้จังหวะตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดไทยที่ต้องปรับเวลาเทรดให้เหมาะกับสภาพตลาดโลก

เฟดยังไม่ฟันธงลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค. “พาวเวล” เตือนตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังเปราะบาง
หลังการประชุม FOMC วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่ายังไม่สามารถสรุปทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมได้ แม้เฟดมีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.75–4.00% ก็ตาม การลงมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์สะท้อนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงลง ส่วนการลงทุนในเทคโนโลยี AI ยังคงแข็งแกร่ง พาวเวลชี้ว่า หากไม่รวมผลกระทบจากภาษี เงินเฟ้อสหรัฐฯ แทบไม่ห่างจากเป้าหมาย 2% ทำให้การตัดสินใจเดือนธันวาคมนี้อาจเป็นจุดชี้ชะตาทิศทางเศรษฐกิจโลกช่วงปลายปี.
WikiFX โบรกเกอร์
FOREX.com
TMGM
Vantage
EC Markets
STARTRADER
GTCFX
FOREX.com
TMGM
Vantage
EC Markets
STARTRADER
GTCFX
WikiFX โบรกเกอร์
FOREX.com
TMGM
Vantage
EC Markets
STARTRADER
GTCFX
FOREX.com
TMGM
Vantage
EC Markets
STARTRADER
GTCFX
